ผ้าใบเป็นผ้าฝ้ายที่หนากว่าหรือผ้าลินิน โดยทั่วไปจะใช้การทอแบบธรรมดาใช้ทอผ้าทอผ้าจำนวนเล็กน้อยและใช้ด้ายหลายเส้นสำหรับการบิดและเส้นด้ายผ้า ผืนผ้าใบมักจะแบ่งออกเป็นสองประเภท: ผ้าใบหยาบและผืนผ้าใบละเอียด ลักษณะของผ้าผืนผ้าใบมีความแข็งแรงและทนทานเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนุ่มนวลต่อการสัมผัสและราคาต่ำ หลังจากผ้าของตัวอ่อนได้รับการบำบัดด้วยการเคลือบกันน้ำเอฟเฟกต์กันน้ำนั้นดีเป็นพิเศษ แต่ผ้าผืนผ้าใบนั้นง่ายต่อการปุยและจางหายไปและมันจะกลายเป็นเก่าหลังจากผ่านไปนาน ความรู้สึก.
ข้อมูลจำเพาะของผ้าผืนผ้าใบขึ้นอยู่กับ "ampere" เพื่อแสดงถึงความหนาและความหนาของผ้า ยิ่งมีน้ำหนักเบาลงเท่าไหร่น้ำหนักก็จะนุ่มขึ้นพื้นผิวและเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ข้อกำหนดทั่วไปของผ้าผืนผ้าใบคือ 6 แอมป์, 8 แอมป์, 10 แอมป์, 12 แอมป์, 16 แอมป์, 24 แอมป์ ฯลฯ เป้สะพายหลังสันทนาการผ้าใบที่มีน้ำหนักเบาและเบากว่าทุกวันทำจากผ้าผืนผ้าใบที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก "แอมป์" ลักษณะที่ดูละเอียดอ่อนและเบา กระเป๋าเป้สะพายหลังสันทนาการที่มีร่างกายค่อนข้างแข็งนั้นทำจากผ้าผืนผ้าใบที่มี "anshu" ค่อนข้างใหญ่ กระเป๋าเป้สะพายหลังที่เสร็จแล้วจะมีสามมิติมากขึ้นและร่างกายจะไม่ยุบได้ง่ายเมื่อวาง อย่างไรก็ตามเนื่องจาก "ความปลอดภัย" ขนาดใหญ่ของผ้าเส้นบนกระเป๋าเป้สะพายหลังที่เสร็จแล้วจะชัดเจนขึ้น
เมื่อเทียบกับผ้าอื่น ๆ ผ้าใบมีสีให้เลือกน้อยกว่า เหตุผลหลักคือปัญหาการแก้ไขสีของผ้าผืนผ้าใบนั้นยากที่จะแก้ปัญหา สีของการพิมพ์ผ้าใบและการย้อมสีไม่สามารถเน้นสีที่สดใสและสว่างได้ดังนั้นจึงไม่สามารถมีสีเท่ากับผ้าอื่น ๆ ได้ สีต่างๆ
ผ้าผืนผ้าใบมีข้อดีและข้อเสีย แต่เนื่องจากลักษณะเนื้อผ้าผ้าผืนผ้าใบสามารถให้ความรู้สึกของการพักผ่อนแฟชั่นและวรรณกรรมและผ้ามีความแข็งแรงและทนทานและราคาไม่สูง ดังนั้นในอุตสาหกรรมการปรับแต่งกระเป๋าเป้สะพายหลังผ้าผืนผ้าใบจึงเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมจากตลาดเสมอและส่วนใหญ่จะใช้ในการทำเป้สะพายหลังสันทนาการทุกชนิดกระเป๋าถือกระเป๋าโรงเรียน ฯลฯ
ในปัจจุบันกระบวนการผลิตของเป้สะพายหลังสันทนาการผ้าใบส่วนใหญ่ในตลาดนั้นไม่ซับซ้อนมากนัก แต่สิ่งที่ง่ายกว่ามักจะมีกระบวนการผลิตที่ละเอียดยิ่งขึ้นคือ
